วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ต้องการให้ลูกน้อยเติบโตอย่างมีชีวิตชีวาในทุกๆวันถือเป็นความคิดหวังยิ่งของผู้ที่เป็นแม่และพ่อเหลือเกิน เวลาที่ลูกเจ็บป่วย หัวอกของพ่อแม่ก็แทบสลาย

แต่การที่ลูกจะมีอนามัยดี และเข้มแข็งนั้นก็ไม่ใช่จะบังเกิดกับเด็กทั้งหมด ยังกับกับน้องแอมป์ลูกสาวคนเล็กของคุณยุพาพร ลูกน้อยคนนี้มีอายุเพียงสองขวบเศษเท่านั้น ก็สัมผัสพบกับโรคเลวร้าย ไม่สบายเป็นโรคมะเร็งในช่องท้อง

“ยามค่ำคืนหนึ่งน้องเกิดมีไข้สูงถึง 38-40 องศา ต้องบึ่งพาส่งโรงหมอโดยด่วน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2554 ครั้งก่อนนี้มีอาการท้องป่อง ปวดท้องอย่างหนัก ท้องผูก และอุจจาระแข็ง นายแพทย์ขอทำการเจาะเลือด เจาะไขสันหลัง เพื่อหาโรคมะเร็งและนำเลือดไปวิเคราะห์ที่ห้องแล็ป”

“ผลการวินิจฉัยพบเห็นก้อนเนื้องอกในช่องท้องของน้อง มีความยาวโดยประมาณ 8 เซนติเมตร กว้าง 5 เซนติเมตร จำเป็นต้องกรีดหน้าท้องเพื่อนำชิ้นเนื้อในท้องไปวิเคราะห์เพื่อค้นหาคำตอบ ช่วงนั้นหมอก็แจ้งกับคุณยุพาพร ผู้เป็นแม่ให้ปล่อยวางใจเอาไว้ว่าชิ้นเนื้อที่พาไปตรวจสอบนั้น อาจจะเป็น เนื้อร้าย 80% สิ้นเสียงคุณหมอเสมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของคนเป็นแม่”

“ดิฉันทำได้เพียงพยักหน้าแล้วอุ้มลูกมาสวมกอดไว้ที่อก ลูกเองก็กอดแม่เอาหน้าแนบไหล่ ได้แต่บอกในใจว่าลูกยังเด็กนักเกิดมาได้ 1 ปี 6 เดือน ต้องแยกจากแล้วเหรอ แล้วกล่าวกับตัวเองว่าน้องยังตายมิได้แม่จะทำทุกอย่างเพื่อขอให้ลูกดำรงชีวิตอยู่ เมื่อถึงที่อยู่ก็ไม่เปิดปากกับใครได้แต่สวดมนต์จนพ่อของน้องโทรมาหาฉัน ดิฉันพูดไปร้องไห้คร่ำครวญไปจนปวดศีรษะ พ่อน้องพูดว่าไงก็ต้องรักษา”

ผลสำรวจจากห้องแล็ปถูกเอามาในตอนบ่ายของวันเดียวกัน ปรากฏว่าชิ้นเนื้อที่เอาไปวิเคราะห์นั้นไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ก็ต้องรีบเร่งทำการรักษาด้วยการให้เคมีบำบัด

“การทำคีโมครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม เป็นเหตุให้เส้นของน้องระเบิด มีไข้ และเกล็ดเลือดลดลง แพทย์ทำการพิจารณาสแกนกระดูก เมื่อกลับมาพักดูแลตัวที่บ้าน ดิฉันกับสามี ต้องพร้อมใจกันฉีดยาละลายลิ่มเลือดให้ลูกแต่ละวัน ลูกก็ยังต้องกินยาลดความดันสูงตลอดเวลา”

“ช่วงที่ทำเคมีบำบัดผิวของน้องเริ่มดำคล้ำ เล็บมือและเล็บเท้าก็ดำคล้ำ ปากซีด หน้าเซียว ผมก็ประหนึ่งกับต้นหญ้าแห้งไหม้ ผิวเหี่ยว เพียงแค่เคลื่อนที่ก็ไม่มีแรง ทานอาหารได้ลดน้อยลง และเขาจะร้องไห้เกรงกลัวคนแปลกหน้า โดยเฉพาะคุณหมอและพยาบาล”

แม้ว่าจะอยู่ในระยะเวลาความทุกข์ใจของญาติพี่น้อง เรื่องที่ดีก็เกิดขึ้นพอให้ทั้งหมดในบ้านมีแรงใจขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย เมื่อเพื่อนบ้านแนะนำน้ำ ACTIV120 ให้กับน้องได้ลองดูดื่ม

“หลานของเพื่อนข้างบ้านคนนี้เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองและได้นำน้ำดื่มแอคทิเวท (Activated Water)มาดื่มพร้อมทั้งใช้ชำระร่างกาย ผลลัพธ์คือหลานมีสภาพดีขึ้นอย่างยิ่ง จากเหตุนี้จึงตกลงใจให้น้องดื่มน้ำ ACTIV120 ควบคู่ไปกับการเยียวยารักษา ตั้งแต่ตอนให้เคมีบำบัดหนแรกช่วงกุมภาพันธ์ ปี 54”

“ดิฉันยังให้ลูกดื่มน้ำดื่มแอคทิเวท ไปพร้อมด้วยการให้เคมีบำบัดโดยไม่ให้ดื่มน้ำอื่นอีกเลย และต่อจากนั้นทุกครั้ง ที่จะทำการให้เคมีบำบัดก็จะจำเป็นต้องเจาะเลือดทุกที ผลเลือดออกมาว่าเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดอยู่ในมาตรฐานปกติดี ไม่ต้องให้ยาเสริมใดๆ เลย ยิ่งกว่านั้นดิฉันยังปลาบปลื้มเหลือประมาณเมื่อข้อสรุปการเอ็กซเรย์ และการสแกนกระดูกเป็นปกติธรรมดา”

ผลสรุปการเอ็กซเรย์ CT สแกน หรือคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงครั้งที่สองทำหลังจากหนแรก 6 สัปดาห์ คราวนี้ผ่านการทำเคมีบำบัดครั้งที่ 1 และให้น้องดื่มน้ำแอคทิเวท ไปแล้ว พบว่ามะเร็งในท้องเพลาลงจากราวๆ 8 ซม. เหลือ 6 ซม.
บทสรุปการเอ็กซเรย์ CT สแกนครั้งที่สาม หลังจากครั้งที่ 2 12 อาทิตย์ มะเร็งในท้องหดตัวเหลือราวๆ 3 เซ็นต์
บทสรุปการเอ็กซเรย์ CT สแกนครั้งที่สี่ ภายหลังครั้งที่สาม 16 สัปดาห์ กำลังรอผลจากแพทย์เพื่อรอการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกให้จบ

“น้องมีผื่นขึ้นหน้าคล้ายๆกับกลากน้ำนมขึ้นที่แก้ม แต่บางทีกินขนมแล้วเปรอะเปื้อนหน้ามีเม็ดขึ้น ดิฉันก็นำเอาผ้าชุบน้ำแอคทีฟ วันทูโอ มาเช็ดใบหน้าให้เขา ผดผื่นก็ค่อยๆ ยุบตัวลงทั้งที่ไม่ต้องทายา”

“ปัจจุบันนี้น้องสุขภาพอนามัยแข็งแรงไม่เหมือนคนป่วย เป็นเด็กสดใส อารมณ์ดี พิสูจน์ได้ว่า ACTIV120 ช่วยเสริมสุขภาพอนามัยน้องได้"

“ก่อนหน้า บุตรชายคนโตเป็นไข้บ่อย ต้องนำไปหาหมอทุกสัปดาห์ ทุกวันนี้ก็ให้ลูกนำน้ำดื่มแอคทิเวทไปดื่มที่โรงเรียนด้วยตลอดเวลา ดิฉันมีสุขมากทั้งนี้เพราะเขาไม่เป็นโรคหวัดอีกแล้ว”
ตอนนี้บ้านคุณยุพาพรเป็นครอบครัวแอคทิเวท (Activated Water)เพราะดื่มทั้งครอบครัว

“มีอยู่ครั้งหนึ่งพริกกระเด็นเข้าตาเจ็บแสบมาก ดิฉันใช้วิธีการการลืมตาในACTIV120 ผลปรากฎว่าหายแสบสนิท”
“ไม้หน้าบ้านเหมือนมันใกล้จะตายใบอับเฉาและเริ่มเหลือง ใช้น้ำดื่มแอคทิเวทไปรด 2-3 ครั้ง ดูว่าต้นไม้ฟื้นตัวและเขียวสดใสขึ้นมา”



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://drink-activ120.easydrinkwater.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น